ทุกเรื่องราวเกี่ยวกับฟุตบอล กัลโช่ เซเรียอา บอลอิตาลี ดูตารางคะแนนกัลโช่ โปรแกรมบอลเซเรียอา อ่านประวัติย่อฟุตบอลอิตาลี – Serie A Italian Football
- ตารางคะแนนกัลโช่
ดูอันดับตารางคะแนนเซเรียอาล่าสุด
- ตารางแข่งกัลโช่เซเรียอา
ติดตามโปรแกรมการแข่งขันกัลโช่เซเรียอา 2020/21
- ประวัติย่อเซเรียอา
ความเป็นมาของฟุตบอลอิตาลี
- ยุครุ่งเรื่องเซเรียอา
‘Le Sette Sorelle’ 7 ทีมดังที่ทำให้อิตาลีเป็นศูนย์กลางแห่งฟุตบอล
เซเรียอา
หลังจากที่ฟุตบอลเซเรียอา (Serie A) ฤดูกาล 2020/21 ได้จบลง เราก็ได้เห็นงูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 10 ปี เบียดแย่งเจ้าเก่า ยูเวนตุส ที่ก่อนหน้านี้ครองแชมป์ Scudetto มาเป็นเวลา 9 ปีติดต่อกัน รับว่าเป็นแชมป์ลีกสมัยที่ 19 ของอินเตอร์ แซงคู่ปรับร่วมเมือง เอซี มิลานที่ครองแชมป์ 18 ครั้ง สำหรับฤดูกาลใหม่ 2021/22 เราจะได้เห็น เอ็มโปลี (Empoli) ซาแลร์นิตาน่า (Salernitana) และ มอนซ่า (Monza) ขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดแทน โปรแกรมบอลเซเรียอา 2021/22 มีกำหนดเปิดสนามวันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2021 แล้วจะปิดฤดูกาลในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2022 โดยแฟนบอลได้รับอนุญาติกลับเข้าสนามอีกครั้งเป็นจำนวน 50% และต้องเป็นผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว
ไฮไลท์การชูถ้วย Scudetto ของ อินเตอร์ มิลาน
ทางสหพันธ์กีฬาของประเทศอิตาลีได้คลอดกำหนดการแข่งขันของฟุตบอลลีกเซเรียอา ฤดูกาล 2020/21 เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยจะมีนัดเปิดสนามในวันที่ 19 กันยายน 2020 (พร้อมกับการเปิดฤดูกาลของบุนเดสลีกาเยอรมัน)และจะคงใช้มาตรการความปลอดภัยของนักเตะและเหล่าสต๊าฟโค้ชจากฤดูกาลที่แล้ว โดยมีข้อกำหนดดังนี้
- นักเตะทุกคนจะต้องผ่านการตรวจเชื้อโควิดอย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง หากพบผู้ติดเชื้อ จะต้องกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วันทันที
- จำกัดจำนวนคนเข้าสนามได้ครั้งละไม่เกิน 300 คน รวมถึงนักเตะ สต๊าฟโค้ชและผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง
- แต่ละทีมจะสามารถเปลี่ยนตัวได้ถึง 5 คน จากเดิมที่เปลี่ยนได้แค่ 3 คน
- มีเครื่องมือป้องกันเชื้อโรคให้กับสต๊าฟโค้ชและฝ่ายการแพทย์ของทีมทุกคน
- ผู้เล่นสำรองบนม้านั่งสำรองจะต้องมีระยะห่างหรือ social distance
ประวัติย่อกัลโช่ เซเรียอา

กัลโช่ เซเรียอา (Calcio Serie A) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ เซเรียอา TIM เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจาก Telecom Italia เป็นลีกการแข่งขันฟุตบอลระดับสูงสุดของประเทศอิตาลี ได้มีจุดกำเนิดการแข่งขันกันมาตั้งแต่ปี 1898 และอยู่ภายใต้การดูเแลของสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี (FIGC) ฟุตบอลลีกอิตาลีได้เปลี่ยนมาเป็น เซเรียอา อย่างเป็นทางการเมื่อปี 1929 และนับว่าเป็นหนึ่งลีกฟุตบอลที่ได้มีการแข่งขันมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตามกัลโช่ เซเรียอาของอิตาลีนั้นได้มีการหยุดชะงักการแข่งขันถึงสองรอบด้วยกัน ในปี 1915 ถึง 1919 เนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 และในปี 1943 ถึง 1945 เนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 2
การแข่งขันเซเรียอานั้นจะเริ่มแข่งขันกันในเดือนกันยายนไปถึงเดือนเมษายนของทุกปีและประกอบไปด้วย 20 ทีมจากลีกสูงสุด โดยทุกๆ ทีมในเซเรียอาจะต้องแข่งกันในระบบพบกันหมด ฤดูกาลละ 2 ครั้งในระบบเหย้าและเยือนเพื่อเก็บคะแนนในแต่ละนัด สโมสรที่คว้าแชมป์ได้ 10 สมัยขึ้นไปจะได้รับดาวสีทองติดอยู่ด้านบนสัญลักษณ์ทีมบนเสื้อ 1 ดวง ขณะนี้สโมสรยูเวนตุสมี 3 ดาวติดอยู่ด้านบนของสัญลักษณ์ทีมบนเสื้อ ขณะที่อินเตอร์ มิลาน และ เอซี มิลาน มีทีมละ 1 ดาว
ชนะ (W) = 3 คะแนน
เสมอ (D) = 1 คะแนน
แพ้ (L) = 0 คะแนน
เมื่อฤดูกาลจบลง ทีมที่มีอันดับสูงสุดในตารางคะแนนจะได้เป็นแชมป์เซเรียอาและได้ถ้วยสคูเดตโต้ (Scudetto) ของปีนั้นๆ ไปครอง ในกรณีที่มีมากกว่าหนึ่งทีมที่ได้คะแนนสูงสุดของอันดับตารางคะแนนเซเรียอาเท่ากัน แชมป์จะตัดสินจากส่วนต่างของลูกได้เสีย
ทีมอันดับ 1 ถึง 4 ของลาลีกาจะได้ไปเล่นในฟุตบอล ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก (Champions League) ส่วนอันดับที่ 5 และ 6 จะได้ไปเล่นฟุตบอลถ้วยยูโรป้าลีก (Europa League) มาฝั่งของทางท้ายตารางกันบ้าง 3 อันดับท้ายของตารางจะถูกส่งไปเล่นในเซเรียบี (Serie B) และในทางกลับกัน 3 ทีมอันดับสูงสุดของเซเรียบี (รวมถึงแชมป์เซเรียบี) จะได้เข้ามาเล่นในเซเรียอาฤดูกาลถัดไป
นับตั้งแต่ก่อตั้งเซเรียอาในปี 1898 จนถึงปัจจุบันทีมที่คว้าแชมป์สูงสุดของเซเรียอามีทั้งหมด 17 สโมสรประกอบด้วย:
ยูเวนตุส | 36 สมัย |
อินเตอร์ มิลาน | 19 สมัย |
เอซี มิลาน | 18 สมัย |
เจนัว | 9 สมัย |
โตริโน่, โบโลญญ่า, โปรแวร์เซลลี่ | 7 สมัย |
โรม่า | 3 สมัย |
ลาซิโอ, ฟิออเรนติน่า, นาโปลี | 2 สมัย |
กายารี่, ซามพ์โดเรีย, เฮลลาส เวโรนา, กาซาเล่, โนวิเซ่, สเปเซีย | 1 สมัย |

ในฤดูกาล 2009/10 อินเตอร์ มิลาน ได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมจากอิตาลีทีมแรกได้ครองแชมป์เซเรียอา แชมป์โคปปา อิตาเลีย และแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลเดียวกันซึ่งเรียกว่า Treble ภายใต้การคุมของยอดกุนซือชาวโปรตุกีสอย่าง มูรินโญ่ (José Mourinho)
นอกจากนี้แล้วสโมสรฟุตบอลในอิตาลีจะมีโอกาสได้เข้าแข่งขันชิงถ้วยโคปปา อิตาเลีย (Coppa Italia) หรือชื่ออย่างเป็นทางการในปัจจุบัน TIM Cup จากผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นถ้วยรางวัลภายในประเทศที่สูงที่สุดและมีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1922 รายการโคปปา อิตาเลียจะประกอบไปด้วย 78 ทีมในอิตาลีจาก เซเรียอา เซเรียบี เลกาโปรปรีมาดีวีซีโอเน (เทียบเท่า เซเรีย เซ) และเลกาโปรเซกอนดาดีวีซีโอเน (เทียบเท่าเซเรีย เด) การแข่งขันโคปปา อิตาเลีย จะเป็นการแข่งขันแบบนัดเดียวสำหรับรอบตัดเชือกทั้งหมดจนมาถึงรอบรองชนะเลิศถึงจะมีการแข่งขันแบบเหย้าเยือน สโมสรที่ได้แชมป์รายการโคปปา อิตาเลีย เกิน 10 สมัยจะได้รับดาวสีเงินติดอยู่บนสัญลักษณ์สโมสรเช่นเดียวกับการเป็นแชมป์ลีกแล้วได้ดาวสีทอง
นับตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน สโมสรยูเวนตุสครองถ้วย Coppa Italia เป็นจำนวนมากที่สุดถึง 13 สมัย ตามมาด้วยโรม่า 9 สมัยและ อินเตอร์ มิลาน กับ ลาซิโอ คนละ 7 สมัย ปัจจุบันมีเพียงทีมยูเวนตุสที่ได้ดาวสีเงินประดับเสื้อทีมจากการเป็นแชมป์โคปปา อิตาเลียมาแล้ว 13 สมัย
เซเรียอาเป็นอีกหนึ่งลีกฟุตบอลได้รับการยอมรับว่าเป็นการแข่งขันที่เข้มข้นที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีองค์กร IFFHS หรือสหพันธ์ประวัติศาสตร์และสถิติฟุตบอลระหว่างประเทศ (International Federation of Football History & Statistics) ได้ทำการจัดอันดับลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดระดับโลกของทุกๆ ปี โดยวัดจากผลงานของทีมใหญ่ 5 อันดับในแต่ละลีกผ่านปัจจัยต่างๆ ทั้งฟอร์มการเล่น ผลงานในประเทศ และผลงานเมื่อแข่งขันในระดับทวีป จากการวิเคราะห์ของ IFFHS เซเรียอาถือเป็นลีกฟุตบอลที่แข็งแกร่งอันดับที่ 4 ของบรรดาลีกฟุตบอลในยุโรปปัจจุบัน ชึ่งตามหลังเพียงแค่หลีกยักษ์ใหญ่อย่าง พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ลาลีกาสเปน และ บุนเดสลีกาเยอรมันเท่านั้น ในช่วงปี 1991 ถึง 2000 เซเรียอานั้นครอบครองตำแหน่งลีกฟุตบอลที่แข่งแกร่งที่สุดถึง 8 สมัยด้วยกัน
ยุครุ่งเรืองแห่งเซเรียอา
ช่วงยุคกลาง 1990 ถึง กลาง 2000 ถือเป็นยุครุ่งเรืองของบอลอิตาลี (Le Sette Sorelle) ภาษาอังกฤษคือ Seven Sisters หมายถึง 7 พี่น้องทีมยักษ์ใหญ่ของอิตาลีในสมัยนั้นที่สร้างความสูสีในลีกเซเรียอาและแข็งแกร่งในระดับบอลยุโรปโดยแต่ละทีมประกอบด้วยผู้เล่นระดับตำนานอย่าง Diego Maradona ของนาโปลี Marco Van Basten ของเอซี มิลาน Lothar Matthäus ของอินเตอร์ มิลาน และ Roberto Baggio ของยูเวนตุส
ในช่วงยุครุ่งเรืองแห่งเซเรียอานี้ 7 พี่น้องทีมยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลีได้นำพาความสำเร็จมาอยู่กับลีกอิตาลี พร้อมได้ช่วยดึงดูดนักเตะระดับหลายคนให้หันมาสนใจค้าแข้งในเวทีฟุตบอลของอิตาลี อีกทั้งในช่วงเวลานั้น ประเทศอิตาลีได้กลายเป็นศูนย์กลางของฟุตบอลทั่วโลก ความเฟื่องฟูของบอลอิตาลีก็ได้ทำให้มีเงินไหลเวียนเข้ามาจำนวนมาก มีแฟนบอลมหาศาลและปัจจัยเหล่านี้ช่วยให้สนามฟุตบอลในอิตาลีหลายแห่งได้ปรับสภาพให้พร้อมรองรับบอลโลกปี 1990 (Italia 90) และการแข่งขันในลีกจะพบกับบรรยากาศที่คนดูในสนามเต็มทุกนัดเพื่อมาดูเหล่าแนวรุกที่เก่งที่สุดในโลกประชันกับแนวรับที่แข็งที่สุดในโลก
7 สโมสรแห่ง Seven Sisters ประกอบด้วย ยูเวนตุส เอซี มิลาน อินเตอร์ มิลาน โรม่า ลาซิโอ ปาร์ม่า และ ฟิออเรนติน่า แฟนบอลที่ทันดูสมัยยุคต้น 1990 จะเห็นความแข็งของทีมยักษ์ใหญ่เซเรียอาในระดับภูมิภาคได้จากสโมสรอย่างเอซี มิลาน ที่ครอบแชมป์ยุโรปถึง 7 สมัย ตามเพียงแค่ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ที่เป็นเจ้าแห่งบอลถ้วยยุโรปมากที่สุดถึง 13 สมัย ตั้งแต่ปี 1989 จนถึงปี 2007 เราจะเห็นได้ว่าสโมสรอย่าง เอซี มิลาน ได้เข้านัดชิงแชมป์บอลถ้วยยุโรปถึง 8 ครั้งและได้เป็นแชมป์รายการถึง 5 สมัย โดยมีการเข้าชิง 3 สมัยติดในช่วงปี 1992 ถึง 1995 อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของฟุตบอลอิตาลีก็เริ่มอ่อนตัวลงโดยเฉพาะหลังเกิดเรื่องอื้อฉาวของการล้มบอลในปี 2006 ซึ่งนับว่าเป็นจุดจบแห่งยุครุ่งเรืองก็ว่าได้
ปัจจุบันทางองค์กร IFFHS ก็ได้จัดให้พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นอันดับลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกในปี 2019
แชมป์เซเรียอาตามรายปี

ฤดูกาล | ทีมแชมป์ |
2020/21: | อินเตอร์ มิลาน |
2019/20: | ยูเวนตุส |
2018/19: | ยูเวนตุส |
2017/18: | ยูเวนตุส |
2016/17: | ยูเวนตุส |
2015/16: | ยูเวนตุส |
2014/15: | ยูเวนตุส |
2013/14: | ยูเวนตุส |
2012/13: | ยูเวนตุส |
2011/12: | ยูเวนตุส |
2010/11: | เอซี มิลาน |
2009/10: | อินเตอร์ มิลาน |
2008/09: | อินเตอร์ มิลาน |
2007/08: | อินเตอร์ มิลาน |
2006/07: | อินเตอร์ มิลาน |
2005/06: | อินเตอร์ มิลาน |
2004/05: | ไม่มีแชมป์ เนื่องจากเหตุการณ์ยูเวนตุสล้มบอล |
2003/04: | เอซี มิลาน |
2002/03: | ยูเวนตุส |
2001/02: | ยูเวนตุส |
2000/01: | โรม่า |
1999/2000: | ลาซิโอ้ |
1998/99: | เอซี มิลาน |
1997/98: | ยูเวนตุส |
1996/97: | ยูเวนตุส |
1995/96: | เอซี มิลาน |
1994/95: | ยูเวนตุส |
1993/94: | เอซี มิลาน |
1992/93: | เอซี มิลาน |
1991/92: | เอซี มิลาน |
1990/91: | ซามพ์โดเรีย |
1989/90: | นาโปลี |
1988/89: | อินเตอร์ มิลาน |
1987/88: | เอซี มิลาน |
1986/87: | นาโปลี |
1985/86: | ยูเวนตุส |
1984/85: | เฮลลาส เวโรนา |
1983/84: | ยูเวนตุส |
1982/83: | โรม่า |
1981/82: | ยูเวนตุส |
1980/81: | ยูเวนตุส |
1979/80: | อินเตอร์ มิลาน |
1979/80: | อินเตอร์ มิลาน |
1978/79: | เอซี มิลาน |
1977/78: | ยูเวนตุส |
1976/77: | ยูเวนตุส |
1975/76: | โตริโน่ |
1974/75: | ยูเวนตุส |
1973/74: | ลาซิโอ |
1972/73: | ยูเวนตุส |
1971/72: | ยูเวนตุส |
1970/71: | อินเตอร์ มิลาน |
1969/70: | กายารี่ |
1968/69: | ฟิออเรนติน่า |
1967/68: | เอซี มิลาน |
1966/67: | ยูเวนตุส |
1965/66: | อินเตอร์ มิลาน |
1964/65: | อินเตอร์ มิลาน |
1963/64: | โบโลญญ่า |
1962/63: | อินเตอร์ มิลาน |
1961/62: | เอซี มิลาน |
1960/61: | ยูเวนตุส |
1959/60: | ยูเวนตุส |
1958/59: | เอซี มิลาน |
1957/58: | ยูเวนตุส |
1956/57: | เอซี มิลาน |
1955/56: | ฟิออเรนติน่า |
1954/55: | เอซี มิลาน |
1953/54: | อินเตอร์ มิลาน |
1952/53: | อินเตอร์ มิลาน |
1951/52: | ยูเวนตุส |
1950/51: | เอซี มิลาน |
1949/50: | ยูเวนตุส |
1948/49: | โตริโน่ |
1947/48: | โตริโน่ |
1946/47: | โตริโน่ |
1945/46: | โตริโน่ |
1944/45: | งดการแข่งขันเนื่องจาก สงครามโลกครั้งที่ 2 |
1943/44: | งดการแข่งขันเนื่องจาก สงครามโลกครั้งที่ 2 |
1942/43: | โตริโน่ |
1941/42: | โรม่า |
1940/41: | โบโลญญ่า |
1939/40: | อินเตอร์ มิลาน |
1938/39: | โบโลญญ่า |
1937/38: | อินเตอร์ มิลาน |
1936/37: | โบโลญญ่า |
1935/36: | โบโลญญ่า |
1934/35: | ยูเวนตุส |
1933/34: | ยูเวนตุส |
1932/33: | ยูเวนตุส |
1931/32: | ยูเวนตุส |
1930/31: | ยูเวนตุส |
1929/30: | อินเตอร์ มิลาน |