ในขณะที่บอล Premier League ถือเป็นลีกที่น่าติดตามที่สุดในโลก เรื่องของคุณภาพนักเตะ ความเร็วในการเล่น มีนักวิพากษ์วิจารณ์บอลที่รอบรู้ และมีการถ่ายทอดสดที่ทั่วถึง สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือที่เรารู้จักกันว่า ยูฟ่า ได้จัดอันดับ Coeffieient Ranking ให้ La Liga ของสเปนอยู่อันดับหนึ่งและเป็นพรีเมียร์ลีกอังกฤษรองลงมา การจัดอันดับนี้คำนึงถึงผลงานของทีมในเวทียุโรปอย่างรายการ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และ ยูโรป้าลีก เป็นต้น อย่างใน 10 ปีหลังสุดทีมจากสเปนคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีกถึง 6 สมัย และแชมป์ยูโรป้าลีก 6 สมัยเช่นกัน แต่ถึงแม้ว่าทีมจากสเปนมักประสบความสำเร็จในบอลถ้วยยุโรปมากกว่า (เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า เป็นต้น) แต่จริงๆแล้วมันคือ บอลพรีเมียร์ลีก ที่มีแฟนบอลติดตามมากที่สุดทั่วโลกโดยมีการคาดการว่ามีผู้ชมเกือบ 5 พันล้านคนทั่วโลก จึงเกิดคำถามที่ตามมาว่า เพราะอะไร พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ถึงโด่งดังกว่าลีกอื่นๆ?
10 ทีมที่มีผู้ติดตามในโซเชี่ยลมากที่สุด
หากเราพูดถึงสโมสรกีฬาที่มีผู้ติดตามในโซเชี่ยล (Facebook, Instagram, Twitter) มากที่สุดทั่วโลก แน่นอนอยู่แล้วว่าทีมจากพรีเมียร์ลีกครองท็อป 10 ไปแล้ว 5 อันดับ ถึงแม้ว่าสองอันดับแรกจะมาจากลาลีกาก็ตาม

Source: Twitter Manchester United
สโมสร | จำนวนผู้ติดตามออนไลน์ | ลีก |
เรอัล มาดริด | 223,888,433 คน | ลาลีกา |
บาร์เซโลน่า | 213,614,164 คน | ลาลีกา |
แมนยู | 125,979,251 คน | พรีเมียร์ลีก |
เชลซี | 81,087,951 คน | พรีเมียร์ลีก |
ยูเวนตุส | 80,958,117 คน | เซเรีย อา |
บาเยิร์น มิวนิค | 73,304,167 คน | บุนเดสลีกา |
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง | 71,030,994 คน | ลีกเอิง |
ลิเวอร์พูล | 69,189,779 คน | พรีเมียร์ลีก |
อาร์เซน่อล | 69,079,520 คน | พรีเมียร์ลีก |
แมนซิตี้ | 61,489,589 คน | พรีเมียร์ลีก |
นโยบายถ่ายทอดที่ทันสมัย
ตอนที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1992 ทีมใหญ่ทั้งหลายทราบดีว่าการแข่งขันฟุตบอลแบบลีกนั้นจะไม่สนุกหากไม่มีหลายๆทีมเล็กแย่งตำแหน่งกันบนตารางคะแนนในรูปแบบที่มีความสมดุล หรือ Competitive Balance จึงนำมาสู่นโยบายการถ่ายทอดสดที่แบ่งรายได้เท่ากันๆ เพื่อเป็นแรงจูงใจด้านการเงินให้กับทุกทีม (Financial Incentive) ณ ตอนนั้น ไอเดียการรวมรายได้การถ่ายทอดของทั้งลีกเข้าด้วยกันแล้วหารเท่า ถือว่ายังเป็นไอเดียที่แปลกใหม่สำหรับยุโรปอยู่ เดิมทีแล้วแต่ละสโมสรก็จะขายลิขสิทธิ์ของทีมใครทีมมัน แต่กับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนั้น ส่วนแบ่งรายได้จะแบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยกัน
- ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดบอลภายในประเทศ แบ่งออกเป็น 50 – 25 – 25
50% – หารเท่าให้กับทีมพรีเมียร์ลีกทั้งหมด
25% – ให้เป็นเงินรางวัลสำหรับทีมที่จบในอันดับที่สูง
25% – ถูกจัดแจงให้กับทีมที่มีการถ่ายทอดสดบ่อยและยอดวิวสูง - ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดบอลต่างประเทศ เช่น บอลแชมเปียนส์ลีก
บทบาทของ Sky

Source: Sky
นอกจากการแข่งขันที่เมามันส์กับผู้เล่นที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพแล้ว บริษัททีวีถ่ายทอดสดของอังกฤษ Sky ถือเป็นหลักสำคัญที่ช่วยให้บอลพรีเมียร์ลีกนั้นได้รับความนิยมจากแฟนบอลทั่วโลก ด้วยความที่เป็นเครื่องข่ายที่โด่งดังอยู่แล้วและนำเสนอรูปแบบการถ่ายทอดสดฟุตบอลที่ทันสมัย สัญญาแรกระหว่าง Sky กับ Premier League เริ่มขึ้นตั้งแต่ฤดูกาลแรกและสร้างรายได้ให้กับพรีเมียร์ลีกกว่า 300 ล้านปอนด์ในช่วงฤดูกาลปี 1992/92 ถึง 1996/96 ในเวลา10 ปีต่อมาในช่วงปี 2005-2007 กระแสของพรีเมียร์ลีกนั้นได้โด่งดังไปทั่วทุกมุมโลก ทำให้มูลค่าสัญญาเพิ่มขึ้นไปกว่า
ฟุตบอลสเปนตามรอย Premier League
เดิมทีแล้วลาลีกาสเปนได้ขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเป็นรายสโมสร จึงก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียบในแง่ของรายได้ อย่างในปี 2015 สองทีมยักษใหญ่ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า สร้างรายได้จากลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสโมสรละ 140 ล้านยูโร ในขณะที่ทีมเล็กอย่าง อัลเมเรีย มีรายได้แค่ 18 ล้านยูโรเท่านั้น ความไม่เท่าเทียมของรายได้สโมสรในสเปนก่อให้เกิดความไม่สมดุลในการแข่งขัน ทำให้ทีมใหญ่อย่าง บาร์ซ่า เรอัล มาดริด และ แอตเลติโก้ มาดริด เข้าวินตำแหน่งไปแชมเปียนส์ลีกในทุกปี
ในปี 2016 ประธานลาลีกาได้ตระหนักปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างสโมสรและต้องการดึงดูดแฟนบอลให้มากเท่าพรีเมียร์ลีก อีกทั้งต้องการเพิ่มความสมดุลในการแข่งขัน จึงผุดไอเดียให้บอลลาลีกาสเปนหันมาใช้รูปแบบนโยบายถ่ายทอดแบบของฟุตบอลอังกฤษด้วยการหารเท่ารายได้ทั้งหมด ตั้งแต่ลาลีกาได้เปลี่ยนมาใช้นโยบายแบบนี้ ตั้งแต่ที่ลาลีกาได้เปลี่ยนมาใช้นโยบายการถ่ายทอดแบบใหม่ ความเหลื่อมล้ำของบรรดาทีมในลาลีกาลดลงไป 50% และมูลค่าของสัญญาการถ่ายทอดบอลลาลีกาโตกว่าเดิม 600 ล้านยูโรภายในเวลา 2 ปี แต่ในขณะเดียวกันทีมใหญ่ก็ยังได้ผลประโยชน์มากกว่าเนื่องจากมียอดชมที่สูงกว่า
อัพเดทล่าสุด
เมื่อปี 2018 สโมสรในพรีเมียร์ลีกในมีการประชุมหารือมติรูปแบบการแบ่งรายได้ของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดบอลต่างประเทศโดยก่อนหน้านี้ได้มีการหารเท่า หลังจากประชุมกันแล้วได้มีมติเห็นพ้องว่าสัญญาขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดมูลค่า 3.3 พันล้านปอนด์จะหารเท่าให้กับทั้ง 20 สโมสรเหมือนเดิม แต่หากว่ามีรายได้เพิ่มจากส่วนนั้นจะถูกแบ่งเป็นรางวัลให้กับทีมที่จบอันดับสูงในตารางซึ่งส่งผลดีต่อการเงินของทีม ‘Big Six’ บอลพรีเมียร์เป็นลีกกีฬาที่มีผู้ติดตามมากสุดในโลกโดยมีการถ่ายทอดในกว่า 200 ประเทศและคาดว่ามียอดผู้ชมราว 4.7 พันล้านคน