ติดตามฟุตบอลถ้วยยูโรป้าลีก ตารางคะแนนยูโรป้าล่าสุด โปรแกรมยูโรป้า 20 บอลถ้วยยุโรป – UEFA Europa League
เช็คตารางคะแนนบอลยูโรป้าลีกรอบแบ่งกลุ่ม
ติดตามโปรแกรมการแข่งขันบอลยูโรป้า
ศึกษาประวัติและความเป็นมาของฟุตบอลยูโรป้าลีก
ดูรยาชื่อแชมป์ถ้วยยูโรป้าลีกตามรายปี
การจับสลากรอบแบ่งกลุ่ม ยูโรป้า ลีก 2020/21
ยูโรป้าลีก หรือ UEFA Europa League (UEL) เป็นรายการฟุตบอลถ้วยระหว่างบรรดาสโมสรในลีกฟุตบอลของยุโรปที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ยูฟ่า (UEFA) ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1971 บอลยูโรป้าลีกถือเป็นการแข่งขันฟุตบอลที่สำคัญอันดับสองของยุโรปรองลงมาจากยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ก่อนหน้านี้ยูโรป้าลีกมีชื่อว่า ยูฟ่า คัพ (UEFA Cup) แต่ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นยูโรป้าลีกในปัจจุบันตั้งแต่ฤดูกาล 2009/10
เดิมทีแล้วรายการบอลถ้วยยูฟ่า คัพ (UEFA Cup) มีชื่อว่า Inter-Cities Fairs Cup ซึ่งเป็นบอลถ้วยของยุโรปที่แข่งขันกันมาระหว่างปี 1955 ถึง 1971 ในช่วงแรก มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันเพียงแค่ 11 ทีมเท่านั้น แต่หลังจากที่รายการนี้เริ่มได้รับความนิยมจากบรรดาสโมสรในลีกยุโรป รายการ Inter-Cities Fairs Cup ก็ได้มีการขยายจำนวนทีมที่เข้าร่วมถึง 64 สโมสรในปี 1970 และได้เข้ามาอยู่ภายใต้การบริหารของยูฟ่าในปีต่อมา นัดชิงฟุตบอลยูฟ่า คัพในปีแรก (1971/72) เป็นการแข่งขันนัดชิงแบบเหย้าเยือนครองโดยทีมจากเกาะอังกฤษระหว่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน กับ สเปอร์ส (สเปอร์ส ชนะด้วยสกอร์รวมสองนัด 3-2) ได้ครองบอลถ้วยรายการสมัยแรก
ปี 1971 – บอลถ้วยยูฟ่า คัพ ถูกก่อตั้งขึ้นภายใต้การบริหารของสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า)
ปี 2009 – เปลี่ยนมาเป็นยูโรป้าลีก
ปี 2012 – แอตเลติโก มาดริด เป็นสโมสรแรกที่ได้แชมป์ยูโรป้า 2 สมัย (ปี 2010 และ 2012)
ปี 2016 – เซบีย่า เป็นสโมสรแรกที่ได้แชมป์ยูโรป้าลีก 3 สมัยซ้อน (2014, 2015, และ 2016)
ปี 2020 – เซบีย่า เป็นสโมสรแรกที่ได้แชมป์ยูโรป้าลีก 4 สมัย
การมีสิทธิเข้าไปเล่นบอลถ้วยยูโรป้านั้นมาได้จากหลายช่องทางด้วยกัน โดยแต่ละประเทศจะได้โควตาทีมที่ส่งแข่งขันจำนวนไม่เท่ากัน ประเทศที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันรายการต่างๆ ของยูฟ่ามาก จะได้โควตาทีมมากกว่า แต่ละประเทศจะมีวิธีการคัดเลือกทีมเข้าแข่งที่แตกต่างกัน โดยจะมีเกณฑ์ทั่วไปที่เหมือนกันดังนี้
ในรอบแบ่งกลุ่มยูโรป้าลีกจะประกอบด้วย 32 ทีมที่ถูกแบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม และจะแข่งกันในระบบพบกันหมดเหย้าและเยือนตั้งแต่เดือนกันยายนถึงธันวาคม โดยจะมีแค่ทีมแชมป์และรองแชมป์กลุ่มที่จะเข้ารอบไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
หลังจากนั้น 8 ทีมที่เป็นแชมป์กลุ่มกับ 8 ทีมที่เป็นรองแชมป์กลุ่มจะเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการจับฉลากแบบไขว้ทำให้ทีมในกลุ่มเดียวกันไม่กลับมาเจอกันอีก เช่น Winner Group A เจอ Runner-up Group B เป็นต้น การแข่งขันรอบนี้จะเริ่มต้นประมาณเดือนกุมภาพันธ์
ผู้ชนะของรอบ 16 ทีม จะเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย หรือ Quarter Finals โดยการจับฉลากในรอบนี้จะเป็นแบบสุ่มทั้งหมด ในรายการยูฟ่ายูโรป้าลีกรอบ 8 ทีมลงไป หากสกอร์รวมของสองนัดเท่ากัน ผู้ชนะจะวัดจากกฎประเยือนหรือใครทำประตูนอกบ้านได้มากกว่านั่นเอง (Away Goals) เพื่อเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ หรือ Semi Finals ต่อไป
คู่ชิงฟุตบอลยูโรป้าลีกจะแข่งกันในเดือนพฤษภาคม หนึ่งอาทิตย์ก่อนนัดชิงแชมเปียนส์ลีก โดยจะจัดแข่งที่สนามกลาง ผู้ชนะถ้วยยูโรป้าจะได้เข้าไปเล่นเพื่อชิง UEFA Super Cup กับผู้ชนะถ้วยแชมเปียนส์ลีกและจะมีสิทธิ์เข้ารอบแบ่งกลุ่มของรายการแชมเปียนส์ลีกในปีถัดไปแบบอัตโนมัติ
ตั้งแต่เริ่มการแข่งขันของบอลถ้วยนี้มา มีทั้งหมด 28 สโมสรที่เคยได้แชมป์รายการโดยมี 13 สโมสรจาก 28 ที่เคยเป็นแชมป์ยูโรป้ามากกว่าหนึ่งครั้ง สโมสรจากลาลีกาสเปนครองแชมป์ถ้วยยูโรป้าลีกมากที่สุดด้วย 12 สมัย ตามมาด้วยทีมจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษและเซเรียอาอิตาลี คนละ 9 สมัย สโมสรที่ประสบความสำเร็จที่สุดในรายการนี้ได้แก่ เจ้ายูโรป้าอย่าง เซบีญ่า ที่เคยเป็นแชมป์รายการถึง 6 สมัย มีสถิติที่สวยหรูกับการชนะ 100% เมื่อเข้าถึงนัดชิง อีกทั้งยังเป็นผู้ครองแชมป์ยูโรป้าในปัจจุบันหลังจากที่เอาชนะ อินเตอร์ มิลาน 3-2 ในนัดชิงปี 2020 ที่ผ่านมา
ทีม | แชมป์ |
เซบีย่า | 6 สมัย |
อินเตอร์ มิลาน, ลิเวอร์พูล, ยูเวนตุส, แอตเลติโก มาดริด | 3 สมัย |
โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค, สเปอร์ส, เฟเยนูร์ด, โกเตนเบิร์ก, เรอัล มาดริด, ปาร์ม่า, ปอร์โต้, เชลซี | 2 สมัย |
อาแจกซ์, พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น, ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต, อิปสวิช, เลเวอร์คูเซ่น, นาโปลี, บาเยิร์น มิวนิค ชาลเก้ 04, กาลาตาซาราย, บาเลนเซีย, ซีเอสเคเอ มอสโก, เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก, ชักตาร์ โดเน็ตส์ก, แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, อันเดอร์เลชท์ | 1 สมัย |
ถ้วยยูโรป้าลีกนั้นถูกออกแบบและสร้างขึ้นโดย Bertoni ผู้เชี่ยวชาญการผลิตถ้วยรางวัลจากอิตาลีเพื่อนำมาใช้ครั้งแรกในนัดชิงยูฟ่า คัพ ปี 1972 ตัวถ้วยนั้นทำจากเงินและตั้งอยู่บนฐานที่ผลิตจากหินอ่อนสีเหลือง มีความสูง 65 เซนติเมตร กว้าง 33 เซนติเมตร และลึกราว 23 เซนติเมตร และถือเป็นบอลถ้วยที่หนักที่สุดด้วยนำ้หนักรวมประมาณ 15 กิโลกรัม
ปี | สโมสร |
2019/20: | เซบีย่า |
2018/19: | เชลซี |
2017/18: | แอตเลติโก มาดริด |
2016/17: | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด |
2015/16: | เซบีย่า |
2014/15: | เซบีย่า |
2013/14: | เซบีย่า |
2012/13: | เชลซี |
2011/12: | แอตเลติโก มาดริด |
2010/11: | ปอร์โต้ |
2009/10: | แอตเลติโก มาดริด |
2008/09: | ชักตาร์ โดเน็ตส์ก |
2007/08: | เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก |
2006/07: | เซบีย่า |
2005/06: | เซบีย่า |
2004/05: | ซีเอสเคเอ มอสโก |
2003/04: | บาเลนเซีย |
2002/03: | ปอร์โต้ |
2001/02: | เฟเยนูร์ด |
2000/01: | ลิเวอร์พูล |
1999/00: | กาลาตาซาราย |
1998/99: | ปาร์ม่า |
1997/98: | อินเตอร์ มิลาน |
1996/97: | ชาลเก้ 04 |
1995/96: | บาเยิร์น มิวนิค |
1994/95: | ปาร์ม่า |
1993/94: | อินเตอร์ มิลาน |
1992/93: | ยูเวนตุส |
1991/92: | อาแจกซ์ |
1990/91: | อินเตอร์ มิลาน |
1989/90: | ยูเวนตุส |
1988/89: | นาโปลี |
1987/88: | เลเวอร์คูเซ่น |
1986/87: | โกเตนเบิร์ก |
1985/86: | เรอัล มาดริด |
1984/85: | เรอัล มาดริด |
1983/84: | สเปอร์ส |
1982/83: | อันเดอร์เลชท์ |
1981/82: | โกเตนเบิร์ก |
1980/81: | อิปสวิช |
1979/80: | ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต |
1978/79: | โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค |
1977/78: | พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น |
1976/77: | ยูเวนตุส |
1975/76: | ลิเวอร์พูล |
1974/75: | โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค |
1973/74: | เฟเยนูร์ด |
1972/73: | ลิเวอร์พูล |
1971/72: | สเปอร์ส |