เมื่อเราได้เข้าสู่โค้งสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020/21 ทีมที่ยังติดอยู่ใน Relegation Battle ยังคงต้องต่อสู้ดิ้นรนกันต่อไป
ท่ามกลางข่าวอื้อฉาวของการก่อตั้ง European Super League หลังจากที่มีสมาชิกจากพรีเมียร์ลีกตอบตกลงเข้าร่วมซูเปอร์ลีกใหม่นี้ถึง 6 สโมสรด้วยกัน (ล้วนเป็นทีมจาก Big Six) ทีมเล็กๆ อย่าง เวสต์บรอมวิช ฟูแล่ม ไบรท์ตัน และ นิวคาสเซิล ยังคงต้องอยู่กับความเป็นจริงและดิ้นรนหาทางออกเพื่อหนีการตกชั้นในฤดูกาลนี้ต่อไป
บททดสอบของ Sam Allardyce
กุนซือชาวอังกฤษคนนี้มีสถิติที่ไม่ธรรมดาและขึ้นชื่อเรื่องการพาทีมหนีตกชั้นสำเร็จทุกครั้งในรอบ 20 ปี เขามีความคุ้นเคยกับบอลอังกฤษเป็นอย่างมากและมีประสบการณ์เคยคุมทีมพรีเมียร์ลีกถึง 7 สโมสรด้วยกัน (Bolton, Blackburn, Crystal Palace, Everton, Newcastle, Sunderland, West Ham) ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งกับ เวสต์บรอมวิช ช่วงก่อนขึ้นปีใหม่ 2021 หลังจากกุนซือคนเก่า Slaven Bilic ถูกปลดหลังพาทีมทำผลงานได้ย่ำแย่จมอยู่ที่ 19 ของ ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก

Source: Football-blogger
สถิติ เวสต์บรอมวิช ภายใต้ Allardyce

Source: Sky Sports
การดึงตัว Big Sam เข้ามาเป็นเสมือนความหวังสุดท้ายของเวสต์บรอมที่จะอยู่ในพรีเมียร์ลีกต่อไปในฤดูกาลหน้า เขาได้เข้ามาพาทีมจัดเรื่องรอยรั่วในกองหลังและสร้างความเชื่อมั่นในห้องแต่งตัว ก่อนหน้านี้ Bilic คุม The Baggies ในลีกทั้งหมด 13 นัด มีสถิติชนะแค่นัดเดียวในการเจอ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด อีกหนึ่งทีมที่ตกชั้นแล้วอย่างแน่นอน ส่วนนัดที่เหลือได้พาเวสต์บรอม เสมอ 4 แพ้ 8 แถมโดนยิงประตูไปทั้งหมด 26 ลูก เฉลี่ยที่การเสียประตู 2 ลูกต่อนัด แต่หลังจากที่ Allardyce เข้ามาคุม เขาได้พาทีมชนะไปถึง 4 ครั้ง (เทียบกับ 1 ครั้งของ Bilic) และเก็บ clean sheet ได้อีก 4 ครั้ง (เทียบกับ 2 ครั้งของ Bilic) และมี win rate ที่ 22% เมื่อเทียบกับ 7% ของ Bilic
คุมทั้งหมด | ชนะ | เสมอ | แพ้ | Win % |
18 | 4 | 5 | 9 | 22% |
สถานการณ์ของ เวสต์บรอมวิช
ขณะนี้ เวสต์บรอมเหลือเวลาเพียงแค่ 7 นัดสุดท้าย The Baggies จะต้องเก็บให้ได้อย่างน้อย 10 แต้มเพื่อขึ้นแซง เบิร์นลี่ย์ และ นิวคาสเซิล โดยจะพบกับ เลสเตอร์ ในคืนวันพฤหัสนี้เวลา 02.00 น. สำหรับผลงาน 5 นัดหลังสุด ลูกทีมของ Big Sam เก็บได้ 7 คะแนนจาก 15 โดยเอาชนะ เชลซี 5-2 พร้อมมอบความปราชัยนัดแรกให้กับ Thomas Tuchel ตั้งแต่เข้ามาคุมสิงห์บลูส์ และได้ถล่ม เซาแธมป์ตัน 3-0 เป็นการเก็บชัยชนะสองนัดติดรอบแรกในฤดูกาลนี้

Source: Premier League
ปฏิหารหนีตกชั้นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
Bolton Wanderers ฤดูกาล 2002/03
ภายใต้การนำทัพโดย Big Sam ในฤดูกาล 2002/03 Bolton ออกสตาร์ทฤดูกาลได้ค่อนข้างดี แต่ฟอร์มที่ย่ำแย่ตั้งแต่ช่วงปีใหม่ได้พาพวกเขาดิ่งลงเป็นตัวเต็งในการตกชั้นและได้จมอยู่ท้ายตารางด้วยการชนะแค่ 2 นัดจาก 21 เกม อย่างไรก็ดี Bolton พลิกสถานการณ์กลับมาได้และรอดการตกชั้นในวันสุดท้ายของฤดูกาล หลังเอาชนะ Middlesbrough ในบ้าน ทำให้แฟนบอลได้เห็น Big Sam กับ Okocha ออกไปเต้นฉลองที่กลางสนามหลังหมดเวลา
West Bromwich ฤดูกาล 2004/05
ไม่มีทีมไหนถูกตราว่าจะตกชั้นไปมากกว่า เวสต์บรอมวิช ในฤดูกาลนั้นหลังจากที่รั้งอันดับบ๊วยตั้งแต่ช่วงคริสต์มาสเป็นต้นมา ในวันสุดท้าย The Baggies เก็บชัยชนะกับ Portsmouth (อีก 1 ทีมที่ลุ้นนหนีตกชั้น) ได้ 2-0 ในขณะที่ Southampton กับ Norwich กลับแพ้ทั้งคู่ ทำให้พวกเขาตกชั้นลงไปแทน ส่งผลให้ เวสต์บรอมวิช รอดอย่างหวุดหวิด
Sunderland ฤดูกาล 2015/16
มากับ Big Sam คนเดิมในฤดูกาล 2015/16 ครั้งนี้กับ Sunderland เขาได้ช่วยพา The Black Cats ออกจากโซนตกชั้นอย่างน่าเหลือเชื่อ ก่อนหน้านี้เว็บพนันได้ตีราคาว่า Sunderland จะตกชั้นแล้วอย่างแน่นอน Allardyce ได้พลิกสถานการณ์ช่วงท้ายฤดูกาล แพ้แค่ 2 นัดจาก 13 และเอาชนะ Everton 3-0 เพื่อการันตีการอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกต่อไป สิ่งที่สมใจแฟนบอล Black Cats มากกว่านั้นคือ การถีบคู่อริอย่าง Newcastle ลงไปแทน
Leicester City ฤดูกาล 2014/15
เดือนมีนาคมปี 2015 เลสเตอร์ ได้จมอยู่ท้ายตารางห่างจากโซนปลอดภัยถึง 7 แต้ม พวกเขาต่อสู้ดิ้นรนและเก็บชัยชนะได้ 7 ครั้งจาก 9 นัดสุดท้ายเพื่อความอยู่รอดอย่างไม่น่าเชื่อ ในฤดูกาลถัดมา ผู้เล่นชุดเดิมบวกกับการเซ็นตัวใหม่เข้ามาเสริมทีมนิดหน่อยทำเอาโลกตะลึงกันทีเดียว เมื่อพวกเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกของสโมสรสำเร็จ และยังคงเป็นเรื่องเล่าขานของทีมม้ามืดมาจนถึงทุกวันนี้