ประวัติสโมสร
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีฉายาว่า “ปราสาทสายฟ้า” เดิมทีเป็นทีมสโมสรของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 โดยมี ดร.วีระ ปิตรชาติ เป็นแกนหลักในการดำเนินการเพื่อหวังให้พนักงานได้ออกกำลังกายกันมากขึ้น เริ่มต้นการส่งทีมเข้าแข่งขันอย่างจริงจังในปี 2535 ในศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ง ก่อนจะขยับขึ้นมาเล่นในศึกดิวิชั่น 1 ในอีก 2 ปีถัดมา ต่อมาในปี 2547 หลังจากคว้าตำแหน่งรองแชมป์ดิวิชั่น 1 (ไทยลีก) ทีมก็เลื่อนขึ้นสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรก และในปี 2551 ก็คว้าแชมป์ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก (ไทยลีก 1) มาครองได้สำเร็จเป็นสมัยแรกของสโมสร

Source: Facebook – ฟุตบอลไทยในอดีต
การเข้าซื้อกิจการและการเปลี่ยนแปลงทีม
ในปี 2552 หลังจากสโมสรทำผลงานไม่ดีในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ได้มีกระแสข่าวเกี่ยวกับการซื้อ-ขายทีมโดยนายเนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมืองชื่อดังชาวบุรีรัมย์ ที่กำลังมองหาสโมสรฟุตบอลเพื่อให้ย้ายไปเล่นที่จังหวัดบ้านเกิดของตนเองชั่วคราว ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่กำลังสร้างทีมใหม่ในบุรีรัมย์ด้วย ท้ายที่สุดเป็นสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่ตกลงขายหุ้นและย้ายจากการเล่นที่จังหวัดอยุธยาไปยังบุรีรัมย์และได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “บุรีรัมย์ พีอีเอ”

Source: Sanook
การเข้ามาเทคโอเวอร์ในครั้งนี้ทำให้สโมสรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน เม็ดเงินลงทุนมหาศาลทยอยเข้ามาและภายในเวลาแค่ 2 ปีก็สามารถคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้สำเร็จนั่นคือแชมป์ไทยลีก, เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ แต่หลังจากนั้นได้มีการเจรจาขอแยกทีมโดยทีมการไฟฟ้าจะย้ายไปเล่นที่จังหวัดอื่น ส่วนทีมงานของบุรีรัมย์ พีอีเอ จะไปอยู่กับ บุรีรัมย์ เอฟซี ที่เลื่อนชั้นมาเล่นในปี 2555 หลังได้แชมป์ดิวิชั่น 1 (ไทยลีก 2) และมีการเปลี่ยนชื่อเป็น “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด”
ความยิ่งใหญ่ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

Source: True ID
หลังจากที่ได้เปลี่ยนชื่อเป็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พวกเขาเดินหน้ากวาดความสำเร็จแบบนับไม่ถ้วน ทั้งแชมป์เอฟเอ คัพ และลีก คัพ อีก 2 สมัยซ้อน แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก (ไทยลีก 1) 3 สมัยติด โดยเฉพาะในซีซั่น 2558 สามารถคว้าได้ถึง 5 แชมป์ เรียกว่าบอลทุกรายการในประเทศ เป็นทีมแรกและทีมเดียวของเมืองไทยที่ครองสถิติดังกล่าว จากนั้นความสำเร็จยังคงมาแบบต่อเนื่องหลังคว้าแชมป์ลีกได้อีก 2 สมัย อย่างไรก็ตามหลังจบซีซั่น 2561 ที่พวกเขาคว้าแชมป์ลีกได้ ทางสโมสรมีรูปแบบการทำทีมเปลี่ยนไป โดยเน้นการปั้นนักเตะจากทีมเยาวชนมากกว่าการซื้อตัวมาร่วมทีม แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงพาทีมเป็นพี่ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลไทยมาจนถึงปัจจุบัน
เสื้อบอลบุรีรัมย์ 2021/22

Source: Facebook – Buriram United Mini Shop
หัวหน้าผู้ฝึกสอน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
สำหรับหัวหน้าผู้ฝึกสอนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คนปัจจุบันคือ มาซาทาดะ อิชิอิ ชาวญี่ปุ่น
อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่มีชื่อเสียง
- ประพล พงษ์พาณิชย์ (ไทย)
- อรรถพล บุษปาคม (ไทย)
- อเลอันโดร เมนเดส (สเปน)
- อเล็กซานเดร กาม่า (บราซิล)
- โบซิดาร์ บันโดวิช (มอนเตเนโกร)
สนามฟุตบอลและความจุ

Source: Thailand Reopening
หากนับเฉพาะการย้ายมาเล่นในบุรีรัมย์ เดิมทีพวกเขาเลือกใช้สนามเขากระโดง สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นสนาม อบจ. มีความจุ 15,000 ที่นั่ง กระทั่งมีการสร้างสนามฟุตบอลของตนเองและเริ่มต้นใช้ในปี 2554 ในชื่อ “บุรีรัมย์ สเตเดี้ยม” หรือ “ธันเดอร์ คาสเซิล สเตเดี้ยม) ความจุสนามทั้งสิ้น 35,000 ที่นั่ง ตั้งอยู่ ต.อีสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
อดีตนักเตะชื่อดังของทีม
- ศุภกิจ จินะใจ (ไทย)
- รณชัย รังสิโย (ไทย)
- สุเชาว์ นุชนุ่ม (ไทย)
- แฟรงค์ โอฮานด์ซ่า (แคเมอรูน)
- แฟรงค์ อาเชียมปง (กานา)
- ฮาเวียร์ ปาตินโญ่ (บราซิล)
- ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต (บราซิล)
- อันเดรส ตูญเญส (เวเนซูเอลา)
- ชาช่า (บราซิล)
- ธีราทร บุญมาทัน (ไทย)
ทำเนียบแชมป์สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
- แชมป์ไทยลีก 7 สมัย ปี 2551, 2554, 2556, 2557, 2558, 2560, 2561
- แชมป์เอฟเอ คัพ 4 สมัย ปี 2554, 2555, 2556, 2558
- แชมป์ลีก คัพ 5 สมัย ปี 2554, 2555, 2556, 2558, 2559
- แชมป์โตโยต้า พรีเมียร์คัพ 4 สมัย ปี 2555, 2557, 2558, 2559
- แชมป์ฟุตบอลถ้วย ก / แชมเปี้ยนคัพ 5 สมัย ปี 2556, 2557, 2558, 2559, 2562
สถิติที่น่าสนใจ
ในซีซั่น 2558 สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นทีมแรกของวงการฟุตบอลไทยที่สามารถคว้าแชมป์ทุกรายการที่ลงทำการแข่งขันประกอบไปด้วยแชมป์ลีก, แชมป์เอฟเอ คัพ, แชมป์ลีก คัพ, แชมป์โตโยต้า พรีเมียร์คัพ และแชมป์ฟุตบอลถ้วย ก / แชมเปี้ยนคัพ รวมถึงปีนั้นพวกเขายังคว้าแชมป์แม่โขง คลับ ได้อีกด้วย